ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการปักชำ
1. อายุและสภาพของต้นแม่ กิ่งที่นำมาจากต้นกล้าหรือต้นอ่อนจะออกรากง่ายกว่ากิ่งที่นำมาจากต้นที่มีอายุมากหรือกิ่งแก่ กิ่งที่นำมาจากพืชที่ปลูกในเรือนกระจกจะออกรากง่ายกว่ากิ่งที่ปลูกในที่กลางแจ้ง
2. เวลาที่ทำการตัดชำ พืชจำพวกไม้ผลัดใบจะใช้กิ่งที่ตัดมาจากช่วงระยะพักตัว ซึ่งจะมีอาหารสะสมอยู่มากจะออกรากได้ดีขึ้น สำหรับไม้เนื้อแข็งที่มีใบเขียวตลอดปี ระยะเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะนำกิ่งมาตัดชำคือหลังจากเนื้อไม้ของกิ่งเริ่มแก่ ในพืชบางชนิดกิ่งที่จะนำมาตัดชำจะต้องเป็นกิ่งที่อยู่ในระยะการเจริญเติบโตจึงจะออกรากได้ดี
3. ตำแหน่งของฐานรอยตัด กิ่งตัดชำจะออกรากได้ดีเมื่อตัดให้ฐานชิดข้อ
4. การมีใบบนกิ่งชำ ใบช่วยให้กิ่งชำออกรากได้มากขึ้น ทั้งนี้อาจเนื่องจากกิ่งได้รับอาหารและออกซิเจนที่ปรุงขึ้นจากใบพืช ที่ติดอยู่กับกิ่ง
5. วัสดุปักชำ การออกรากของกิ่งชำจะดีที่สุดถ้าวัสดุปักชำดูดน้ำได้มาก มีการระบายน้ำและการถ่ายเทอากาศดี วัสดุปักชำที่ดีต้องปราศจากเชื้อรา แบคทีเรีย และวัสดุเน่าเปื่อยต่างๆ
6. การเร่งรากด้วยสารเคมี สารเคมีและฮอร์โมนบางชนิดสามารถช่วยในการเกิดรากในพืชหลายชนิด แต่ควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับชนิดของพืช
7. ความชื้นของอากาศ สำหรับกิ่งชำที่มีใบติดมีความจำเป็นต้องรักษาระดับความชื้นในอากาศให้สูงสม่ำเสมอ เพื่อลดการคายน้ำจากใบพืช และเพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำ ซึ่งจะช่วยให้กิ่งชำออกรากได้ดี
8. อุณหภูมิ อุณหภูมิของแปลงปักชำในเวลากลางวันควรประมาณ 70-80 องศา ฟาเรนไฮด์ กลางคืนประมาณ 60-70 องศาฟาเรนไฮด์ ควรรักษาระดับอุณหภูมิที่โคนกิ่งตัดชำให้สูงกว่าอุณหภูมิเหนือระดับวัสดุปักชำ ประมาณ 10 องศาฟาเรนไฮด์ เพื่อให้กิ่งปักชำเกิดรากก่อนที่ตาบนจะเกิดยอด
9. ความเป็นกรดเป็นด่างของน้ำที่ใช้รด จะช่วยให้กิ่งตัดชำออกรากได้ดียิ่งขึ้น